บทความที่ได้รับความนิยม

วันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

โปรแกรมป้องกันไวรัส

โปรแกรมป้องกันไวรัส (อังกฤษ: Antivirus software) หรือในวงการเรียกว่า แอนติไวรัส/แอนติสปายแวร์
           
(Anti-Virus/Anti-Spyware) เป็นโปรแกรมที่สร้างขึ้นเพื่อป้องกันและกำจัดไวรัสคอมพิวเตอร์(ต่อจากนี้จะเรียกว่าไวรัส)

           จากผู้ไม่หวังดีทางอินเทอร์เน็ต
                    โปรแกรมป้องกันไวรัสมี 2 แบบใหญ่ๆ
             1.แอนติไวรัส เป็นโปรแกรมโปรแกรมป้องกันไวรัสทั่วๆไป จะค้นหาและทำลายไวรัสในคอมพิวเตอร์ของเรา
             2.แอนติสปายแวร์ เป็นโปรแกรมป้องกันการโจรกรรมข้อมูล จากไวรัสสปายแวร์ และจากแฮ็คเกอร์
             รวมถึงการกำจัด Adware ซึ่งเป็นป๊อปอัพโฆษณาอีกด้วย

                   โปรแกรมป้องกันไวรัสจะค้นหาและทำลายไวรัสที่ไฟล์โดยตรง แต่ในทุกๆวันจะมีไวรัสชนิดใหม่เกิดขึ้นมาเสมอ
              ทำให้เราต้องอัปเดตโปรแกรมป้องกันไวรัสตลอดเวลาเพื่อให้คอมพิวเตอร์ของเราปลอดภัย โดยแอนติไวรัสจะมี
              หลายรูปแบบตามบริษัทกันไปและแต่ละบริษัทจะมีการอัปเดตและการป้องกันไม่เหมือนกันเหมือนกันแต่ใน
              คอมพิวเตอร์เครื่องเดียวไม่ควรมีแอนติไวรัส 2 โปรแกรมเพราะจะทำให้โปรแกรมขัดแย้งกันเองจนไม่สามารถใช้งานได้

อาการคอมที่โดนไวรัส

1. การทำงานของคอมพิวเตอร์ช้ากว่าปกติ 
2. คอมพิวเตอร์หยุดทำงานโดยไม่ทราบสาเหตุ 
3. ข้อมูลหายไปโดยไม่ทราบสาเหตุ 
4. ส่งเสียง หรือข่าวสารแปลกออกมา 
5. ไดร์ฟ หรือฮาร์ดดิสห์หยุดทำงานโดยไม่ทราบสาเหตุ 
6. ไฟล์ในแผ่นดิสก์ หรือฮาร์ดดิสก์ถูกเปลี่ยนเป็นขยะ 
7. เครื่องทำงานช้าลง ใช้เวลานานผิดปกติในการเรียกโปรแกรมขึ้นมาทำงาน 
8. ขนาดของโปรแกรมใหญ่ขึ้น 
9. วันเวลาของโปรแกรมเปลี่ยนไป 
10. ข้อความที่ปกติไม่ค่อยได้เห็นกลับถูกแสดงขึ้นมาบ่อย ๆ 
11. เกิดอักษรหรือข้อความประหลาดบนหน้าจอ 
12. เครื่องส่งเสียงออกทางลำโพงโดยไม่ได้เกิดจากโปรแกรมที่ใช้อยู่ 
13. แป้นพิมพ์ทำงานผิดปกติหรือไม่ทำงานเลย 
14. ขนาดของหน่วยความจำที่เหลือลดน้อยกว่าปกติ โดยหาเหตุผลไม่ได้ 
15. ไฟล์แสดงสถานการณ์ทำงานของดิสก์ติดค้างนานกว่าที่เคยเป็น 
16. ไฟล์ข้อมูลหรือโปรแกรมที่เคยใช้อยู่ ๆ ก็หายไป 
17. เครื่องบูตตัวเองโดยไม่ได้สั่ง  
18. เซกเตอร์ที่เสียมีจำนวนเพิ่มขึ้นโดยมีการายงานว่าจำนวนเซกเตอร์ที่เสียมี จำนวนเพิ่มขึ้นกว่า แต่ก่อนโดยที่ยังไม่ได้ใช้โปรแกรมเข้าไปตรวจหาเลย 

เมื่อคอมพิวเตอร์โดนไวรัส


     เมื่อรู้ว่าคอมพิวเตอร์โดนไวัสแล้วทำอย่างไร บางท่านกำลังคิดในใจว่าปล่อยไว้งั้นแหละ แล้วค่อยซ่อม ใช้ไปก่อนแล้วกัน อันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งคำตอบ แต่รู้ไหมคะว่า เมื่อโดนไวรัสแล้ว ไวรัสบางตัว มันจะลามไปเกาะไฟล์ต่าง ๆของเรา แล้วยิ่งถ้าตอนนั้นโปรแกรมแอนตี้ไวรัสของเรานั้นทำงานเต็มประสิทธิภาพ แบบว่าอัพเดทใหม่ ๆ (ทั้งๆที่ไม่่ยอมไปลบไวรัสซะงั้น) ตัวโปรแกรมแอนตี้ไวรัสก็จะตามไปลบไฟล์ของเราที่มีไวรัสไปเกาะคะ สังเกตุได้ว่า โปรแกรมของเราโหลดมาไว้ใน Harddisk พอคลิก Setup แล้วฟ้อง Error ซะงั้น กำแล้วงัย นั่นแหละคะไวรัสเล่นงาน และชอบเล่นงานไฟล์จำพวก .exe ซะด้วย มาดูคะว่าเราพอทำอะไรได้บ้าง
1. ถ้า windows ยังไม่ล่ม ก็ทำการ BACKUP ข้อมูลไว้ก่อนคะ
2. ถ้าหากว่าโปรแกรม antivirus ไปลบไฟล์ของเราเรื่อย ๆ นั้นก็ปล่อยไว้ก่อนคะ เพราะว่าตอนนี้สคริปไวรัสมันรันอยู่ และก็ไวรัสนั้นไม่ได้เกาะไฟล์อะไรรวดเร็วขนาดนั้นคะ เพราะถ้าไวรัสเกาะไฟล์ของแล้ว เมื่อเราเรียกใช้งาน ยังงัยไวรัสก็รันมาใหม่อยู่ดีคะ
2. ถ้า windows ล่มแล้ว ให้หาแผ่น Boot มาใช้งาน เพื่อที่จะ backup ข้อมูลเก็บไว้
3. ลง Windows ใหม่ หรือถ้ามี Ghos อยู่ก็ GHOS ใหม่ครับ (อันนี้จะสะดวกหนอ่ย) เวลาลง Windows ก็ถอดสาย Lan ออกก่อนก็ดีเหมือนกันคะ เพราะตอนลง windows ตัว Mulware จะลงได้
4.เมื่อลงระบบปฏิบัติการเรียบร้อยแล้วก็ลงโปรแกรมและ Driver ให้เรียบร้อย จากนั้นเราก็ทำการอัพเดท โปรแกรมแอนตี้ไวรัสให้ล่าสุด แล้วก็สแกน ทุก Drive ค่ะ เพราะบางทียังมีไฟล์ไวรัสอยู่ในไดร์ต่าง ๆที่ไม่ใช่ Drive C:
5.ถ้ามีไวรัส ก็ลบให้เรียบ

วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในธนาคาร

ลักษณะของกิจการ : สถาบันการเงิน รัฐวิสาหกิจ
ธนาคารมีพนักงานที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ: คิดเป็น 100% ของพนักงานทั้งหมด
ธนาคารไทยพาณิชย์ มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในงานด้าน :
     - งานบัญชีและการเงิน: ใช้ในการทำระบบเงินฝาก และการทำบัญชี                 แบบออนไลน์
     - งานบริหารบุคคล:  ธนาคารมีการทำระบบการจัดการฐานข้อมูลของพนักงาน
     - งานขาย – งานบริการ และการตลาด: ธนาคารจะมีพนักงานหน้าเค้าเตอร์ในการให้บริการ
     - งานวัสดุ-ครุภัณฑ์ และทรัพย์สิน: ใช้ในการควบคุมทรัพย์สินของธนาคาร
     - งานสำนักงาน-เอกสารและสื่อสาร: ถ้ามีข้อมูลใหม่เข้ามาทางธนาคารจะส่งข้อมูลให้กับพนักงานผ่านทางระบบอินทราเน็ตให้กับพนักงาน
      - สารสนเทศเพื่อการบริหาร:  ผู้บริหารธนาคารใช้สารสนเทศเพื่อพัฒนางานและให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
      - เครือข่ายสารสนเทศ-internet:  มีการใช้ระบบการสื่อสารภายใน ธนาคารโดยใช้ระบบอินทราเน็ต 
ธนาคารไทยพาณิชย์มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในทุกๆระดับของการทำงาน
       - ระดับปฏิบัติการประจำ( TPS) พนักงานใช้เพื่อให้บริการลูกค้าในการฝากเงิน ถอนเงิน โอนเงิน เป็นต้น
       - ระดับบริหารขั้นต้น(MIS)  ใช้ในการควบคุมระบบการเงินภายในสาขาของธนาคาร
       - ระดับสำนักงาน (OAS) ใช้เพื่อช่วยให้การทำงานหรือเพื่อที่จะอำนวยความสะดวกในการติดต่อสื่อสารระหว่างสาขาย่อยของธนาคารกับสำนักงานใหญ่ของธนาคาร
ธนาคารไทยพาณิชย์ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อวัตถุประสงค์ดังนี้
       - การสร้างมูลค่าเพิ่ม : การสร้างฐานข้อมูลลูกค้าและการขายผลิตภัณฑ์ต่างๆ
       - ลดค่าใช้จ่าย: การลดค่าใช้จ่ายในการติดต่อสื่อสารและศูนย์กลางของข้อมูลแทนการอบรมจากพนักงาน
       - สร้างโอกาสทางการตลาด: การเพิ่มการบริการและการให้บริการผ่านทางระบบอินเตอร์เน็ต
       - ปรับปรุงการบริหารเพื่อประสิทธิภาพและการประสานงาน: การมีขีดจำกัดในการเข้าถึงข้อมูลและการปรับปรุงการบริหารงานในแต่ละสาขา
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมีผลกระทบต่อกิจการในด้าน
                ผลกระทบ  ข้อดี :  การติดต่อสื่อสารหรือการส่งข้อมูลระหว่างกันสามารถทำได้อย่างสะดวกรวดเร็วและยังช่วยประหยัดเวลาในบางกรณี
                ผลกระทบ ข้อเสีย :  มีการใช้บุคลากรภายในธนาคารน้อยลง
ผู้ให้ข้อมูลมีความเห็นเกี่ยวกับการลงทุนและค่าใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ: เหมาะสมและคุ้มค่า เพราะในการให้บริการลูกค้าถ้าธนาคารมีเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาช่วยก็จะทำให้เกิดความสะดวก รวดเร็วในการให้บริกา

วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2555

วิเคราะห์แหล่งสารสนเทศต่าง ๆ

 ห้องสมุด

ห้องสมุด มีการจัดระเบียบได้เป็นหมวดหมู่ แบ่งแยกหนังสือได้เป็นระเบียบเรียบร้อย สามารถมองหาหนังสือได้ง่าย เมื่อถึงเวลาต้องการที่จะใช้ ก็สามารถรู้ได้ทันทีว่าหนังสืออยู่หมวดไหน ชั้นไหน  มีบรรณารักษ์เป็นคนบริหารงานต่าง ๆ ห้องสมุดบางที่ก็จะมีเทคโนโลยีสารสนเทศ ห้องสมุดในปัจจุบัน มีความทันสมัยกว่าเมื่อก่อนมาก ทำหน้าที่ได้หลายอย่าง ทั้งเก็บรวบรวม จัดระบบต่างๆ เพื่อบริการสารสนเทศ ตลอดจนคอมพิวเตอร์เพื่อบริการแก่นักศึกษาหรือบุคคลทั่วไป

วันพฤหัสบดีที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2555

แบบฝึกหัดบทที่ 1 วิชาการจัดการสารสนเทศ

บทที่ 1
1. ข้อมูล หมายถึง ข้อเท็จจริงหรือเหตุการณ์เกี่ยวกับสิ่งต่างๆ เช่น คน สถานที่ สิ่งของต่างๆซึ่งมีการเก็บรวบรวมเอาไว้และสามารถเรียกมาใช้ประโยชน์ได้ในภาย หลังข้อมูลจึงจำเป็นต้องเป็นข้อมูลที่ดีมีความถูกต้องแม่นยำ
2. ข้อมูลปฐมภูมิ หมายถึง สารสนเทศที่ได้มาจากต้นแหล่งโดยตรง เช่น วารสาร รายงานการวิจัย สิทธิบัตรจดหมายเหตุ
3. ข้อมูลทุติยภูมิ หมายถึง สารสนเทศที่มีการรวมรวม เรียบเรียงขึ้นใหม่ เช่น หนังสือ ตำรา สารนุกรม พจนานุกรม รายงานสถิติต่างๆ
4. สารสนเทศ หมายถึง ข้อมูลที่ได้ผ่านการประมวลผลแล้วอาจใช้วิธีการง่ายๆ เพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพข้อมูลทั่วไปให้อยู่ในรูปแบบที่มีความสัมพันธ์หรือ เกี่ยวข้องกัน
5. จงอธิบายประเภทของสารสนเทศ  (1) จำแนกตามแหล่งสารสนเทศ แหล่งปฐมภูมิ แหล่งทุติยภูมิ แหล่งตติยภูมิ (2) จำแนกตามสื่อที่จัดเก็บ กระดาษ วัสดุย่อส่วน สื่ออิเล็กทรอนิกส์ สื่อแสง
6. ข้อเท็จจริงของสิ่งต่างๆที่อาจเป็นตัวเลขข้อความรูปภาพเสียง คือ ข้อมูล
7. ข้อมูลที่ผ่านการประมวลผลเป็น สารสนเทศ
8. ส่วนสูงของเพื่อนที่ถามจากเพื่อนแต่ละคน เป็น ข้อมูลปฐมภูมิ
9. ผลของลงทะเบียนเป็น ข้อมูล (DATA)
10. กราฟแสดงจำนวนนิสิตในห้องเรียน เป็น ข้อมูลสถิติ

แบบฝึกหัดบทที่ 2 วิชาการจัดการสารสนเทศ

บทที่ 2
1. ให้นิสิตหารายชื่อเว็บไซด์หรือเทคโนโลยีที่ใช้บริการต่างๆตามหัวข้อเหล่านี้
  1.1 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในสาขาการศึกษา เช่น คอมพิวเตอร์ช่วยสอน การจัดโปรแกรมการสอน การเรียนการสอนใช้เว็ปเป็นหลัก อิเล็กทรอนิกส์บุค ระบบวิดีโอออนดิมาน

  1.2 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพธุรกิจ เช่น การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น การซื้อสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ตเพื่อสะดวกและรวดเร็ว  การแลกเปลี่ยนข้อมูลอินเตอร์เน็ต เช่น การสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อเป็นการทางธุรกิจ โดยส่งผ่านเครือข่ายโทรศัพท์สื่อสาร

  1.3 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพการสื่อสารมวลชน เช่น ด้านมัลติมีเดีย ด้านกราฟฟิก โปรแกรมต่าง ๆ ซรอฟแวร์  ระบบวิเคราะห์ภาพ เสียง

  1.4 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพทาอุตสาหรกรรม เช่น อุตสาหกรรมการผลิตได้ใช้คอมพิวเตอร์ออกแบบรถยนต์ ปฏิบัติการผลิต เช่น การพ่นสี  อุตสาหกรรมการพิมพ์ ระบบการพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ได้จัดเตีรมต้นฉบับบรรณาธิการ ตีพิมพ์ จัดเก็บ และจัดจำหน่าย

  1.5 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพทางการแพทย์ เช่น ด้านการลงทะเบียนผู้ป่วย การสนับสนุนการรักษาพยาบาล โดยการเชื่อมโยงระบบคอมพิวเตอร์ของโรพยาบาลต่างๆเข้าด้วยกัน  การสอนทางไกลโดยใช้ดาวเทียม โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

  1.6 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพทหาร ตำรวจ เช่น ด้านกฎหมายและปกครองใช้เทคโนโลยีสารสนเทศสรุปเข้าคอมพิวเตอร์ทั้งหมด ด้านการสื่อสาร นำดาวเทียมทหารมาใช้เพ่อกิจการความมั่นคงของทางทหาร

  1.7 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในทางราชการ เช่น ระบบนำเสนอข้อมูลข่าวสารสำหรับผู้บริหาร ได้มีการนำเทคโนโลยีลายเซ็นดิจิทัลมาใช้ ระบบจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แบบปลอดภัย

  1.8 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชชีพด้วนเกษตกรรม เช่น การใช้เทคโลโลยีชีวภาพในกระบวนการปรับปรุงพันธูพืชและสัตว์ การสร้างเอกลักษณ์ทางพันธุกรรม การขยายพันธูุพืชและคัดเลือกพันธุ

  1.9 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับคนพิการต่างๆ เช่น การรักษาโดยผ่านดาวเทียม หรือใยแก้วทำแสง

2. มหาวิทยาลัยมหาสารคามเตียมเทคโนโลยีสารสนเทศด้านการศึกษาให้กับท่าน มีอะไรบ้าง เช่น คอมพิวเตอร์ วิดีโอ การจัดโปรแกรมการสอน
3. ข้อ2 จงวิเคราะห์ว่าท่านจะเอาเทคโนโลยีเหล่านั้น มาทำให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองอย่างไรบ้าง เช่น คอมพิวเตอร์ และ วีดีโอ เพื่อช่วยให้ความสะดวกสบายในการเรียนการสอนและเข้าใจได้ง่ายขึ้น  การลงทะเบียนเรียนหรือเข้าดูตารางเรียนผ่านเว็ปมหาลัย